วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2563

โควิด - 19

 ที่มาของโควิด 19

ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบชัดเจนถึงแหล่งกำเนิดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ก่อนหน้านี้มีการสันนิษฐานว่า ไวรัสชนิดนี้อาจเริ่มติดต่อจากสัตว์ป่ามาสู่คน โดยมีต้นตอของการแพร่ระบาดจากงูเห่าจีน (Chinese cobra) และงูสามเหลี่ยมจีน (Chinese krait) ที่นำมาวางจำหน่ายในตลาดสดเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่พบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรก ๆ

ทีมผู้วิจัยสันนิษฐานว่า งูอาจเป็นสัตว์ตัวกลางที่ส่งต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวมาสู่คน เนื่องจากงูพิษที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติล่าค้างคาวในถ้ำเป็นอาหาร แต่ก็ยังคงมีข้อสงสัยว่า ไวรัสโคโรนาสามารถปรับตัวให้อยู่อาศัยและขยายพันธุ์ในร่างกายของทั้งสัตว์เลือดเย็นและสัตว์เลือดอุ่นได้อย่างไร

ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ตัวนิ่ม สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ชาวจีนเชื้อว่ามีสรรพคุณตามตำรายาแผนโบราณนั้น อาจเป็นพาหนะนำเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวมาแพร่สู่คนที่ตลาดค้าสัตว์ป่าเมืองอู่ฮั่น

 

 

วิธีการการป้องกัน และการดำเนินการของประเทศไทย

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยและสุขภาพของผู้มาติดต่อทุกท่าน และความรับผิดชอบต่อส่วนรวมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563

          โดยที่ผ่านมา ธปท. ได้ดำเนินมาตรการหลายด้านเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้มาติดต่อและพนักงาน ธปท. ซึ่งรวมมาตรการที่ใช้กับพนักงาน ธปท. อาทิ การงดการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ การรายงานสุขภาพของพนักงาน การเลื่อนหรือยกเลิกการจัดประชุมและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในพื้นที่ ตลอดจนจัดให้มีระบบการสื่อสารทางเลือกกับผู้ที่ประสงค์จะมาติดต่อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

        ธปท. ขอเรียนให้ผู้ที่ประสงค์จะมาติดต่อทราบว่า ท่านสามารถพิจารณาใช้ช่องทางการติดต่อทางเลือก อาทิ โทรศัพท์ หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้ด้วย และหากมีความจำเป็นที่จะต้องมาติดต่อด้วยตนเอง ธปท. ใคร่ขอความร่วมมือให้ท่านโปรดปฏิบัติตามแนวทางของ ธปท. ในการเข้าอาคารที่ทำการของ ธปท.(สำนักงานใหญ่ สายออกบัตรธนาคาร และสำนักงานภาคทุกแห่ง) เพื่อรักษาความปลอดภัยและสุขภาพของผู้มาติดต่อทุกท่าน และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และประกาศกระทรวงสาธารณสุขข้างต้น ดังนี้

       1. โปรดให้ความร่วมมือกับการคัดกรองสุขภาพ โดยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าอาคารที่ทำการทุกแห่งของ ธปท. โดยหากสูงเกินกว่า 37.5 องศา หรือมีอาการไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย ธปท. ขอสงวนสิทธิที่จะไม่อนุญาตให้ท่านเข้าไปในตัวอาคารที่ทำการของ ธปท.

       2. โปรดทราบว่า ธปท. มีมาตรการจำกัดการเข้าอาคารของ ธปท. สำหรับผู้ที่มีประวัติเดินทางไปหรือผ่านประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยงของการระบาดของโรคโควิด 19 (ท่านสามารถดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของ ธปท. www.bot.or.th) ในการติดต่อขอเข้าอาคารที่ทำการทุกแห่งของ ธปท. ขอท่านได้โปรดให้ข้อมูลในการเดินทางมาจาก หรือเดินทางผ่านประเทศกลุ่มเสี่ยง ดังกล่าว ต่อเจ้าหน้าที่ของ ธปท. ตามความเป็นจริง

      ธปท.ขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการตามมาตรการคัดกรองข้างต้น และพิจารณาอนุญาตการเข้าอาคารที่ทำการทุกแห่งตามที่ ธปท. กำหนด ตลอดจนการรายงานข้อมูลให้แก่กระทรวงสาธารณสุขตามที่กฎหมายกำหนด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

การอ่านข้อมูลสถิติการระบาดในปัจจุบัน และแนวโน้มการระบาด

 


วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ยุค 5G/6G , Iot , AI

5G  คืออะไร?

ก่อนที่จะไปถึง 5G เรามาเริ่มทำความรู้จักแต่ละ G (Generation) กันก่อน

          - ยุค 1G ยุคนั้นเป็นยุคที่เราคุยกันผ่านเสียงผ่านมือถือระบบอนาล็อก

          - ยุค 2G เราสามารถส่งข้อความ MMS หากันได้

          - ยุค 3G เราเชื่อมต่อและใช้งานอินเทอร์เน็ต เพื่อส่งข้อมูลผ่านมือถือได้

          - ยุค 4G เราสามารถดูภาพเสียง หรือหนังออนไลน์ได้ที่ความเร็วเพิ่มขึ้น

 

ยุค 5G (Generation) เรียกได้ว่าเป็น รุ่นที่ 5 ของการสื่อสารที่อนาคตจะไม่ใช่แค่โทรศัพท์มือถือแล้ว แต่จะรวมถึงอุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตได้ (Internet of Things หรือ IoT) ซึ่งหากเราเข้าสู่ยุค 5G เราจะดาวน์โหลดวีดีโอ หนัง หรือแอปฯ ได้เร็วถึง 10,000 Mbps ถ้าใช้ 4G ดูวิดีโอออนไลน์ (ขนาด 8K) หรือดาวน์โหลดหนังต้องรอ 6 นาที แต่ถ้ามี 5G ใช้เวลาแค่ไม่นาน เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นเมื่อเทียบกับ 4 G

แล้ว 5G เหนือกว่า 4G อย่างไร?

1.       การตอบสนองไวกว่า ถ้าเราใช้ 4G สั่งงานควบคุมสิ่งต่างๆได้เร็วที่ 20 – 30 ms แต่ถ้าใช้ 5G การสั่งงานเพื่อควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตได้เร็วขึ้น 10 เท่า

2.       การรับส่งข้อมูลได้มากกว่า 4G

3.       5G มีความถี่สำหรับใช้งานมากกว่า เราจึงสามารถใช้งานคลื่นความถี่ได้ถึง 30GHz

4.       5G รับรองจำนวนผู้ใช้งานในแต่ละพื้นที่ได้มากกว่า

  1. ถ่ายโอนข้อมูลต่อวินาทีได้ปริมาณมากกว่า 4G


------------------------------------------------------------

 6G คืออะไร

6g คือ เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแห่งโลกอนาคตโดยแท้จริง เพราะเรียนรู้ที่จะเคลื่อนที่ได้เองวิเคราะห์และแก้ปัญหาได้เอง จากการสืบค้นข้อมูลอย่างรวดเร็ว โดยในยุค 6g นั้นจะเป็นยุคที่การสื่อสาร ได้รับการแก้ไขในเรื่องคลื่นรวมทั้งการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาผสมผสาน เท่านั้นยังไม่พอระบบ AI ก็จะมีการสั่งการจากการเรียงลำดับของข้อมูลที่ผ่านเข้ามา พร้อมเลือกการตัดสินใจที่มันคิดว่าดีที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องผ่านการเชื่อมต่อข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมหาศาล และทางระบบก็จะมีการปรับตัวให้เข้ากับการส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น

 -------------------------------------------------------------------

Lot คืออะไร

Lot คือหน่วยวัดของขนาดสัญญาสำหรับการเทรดบนตราสาร CFD ซึ่งสินทรัพย์ทางการเงินทั้ง Forex, Cryptocurrency หรือดัชนีหุ้นต่างประเทศ จะเทรดกันด้วยตราสาร CFD แทบจะทั้งหมด ดังนั้น จะเห็นว่า การเทรดในตลาด Forex จะใช้หน่วยคำว่า Lot อยู่สม่ำเสมอ

การจะเข้าใจเวลาเราเปิดสถานะไม่ว่าจะกี่ Lot ก็ตาม เราจะได้กำไรเท่าไหร่ ต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ รายละเอียดพวกนี้จะเกี่ยวข้องตั้งแต่เรื่อง Leverage, ระยะส่วนต่างของราคา, ระดับของ การที่เราเข้าใจที่ไปที่มาจะทำให้เราคำนวณได้ถูกต้อง แต่ในเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ การใช้ เครื่องคำนวณ (Trading Calculator) เข้าส่วนจะย่นเวลาการเรียนรู้ได้อย่างมาก

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 AI คืออะไร

AI คือเทคโนโลยีสมองกลคอมพิวเตอร์ที่สามารถคิดได้เหมือนมนุษย์

พื้นฐานของ AI คือเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบให้มีระบบทำงานเหมือนกับการทำงานของสมองมนุษย์ , AI ที่ใช้กันในวงกว้างทุกวันนี้ AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบพร้อมเช่นเดียวกับมนุษย์ที่เกิดใหม่ ต่างก็ต้องเรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ การเรียนรู้ของ AI เหมือนกับมนุษย์ คือรับรู้ข่าวสาร ข้อมูล แล้วนำมาประมวลผล จากนั้นก็จัดเก็บ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในอนาคต ยกตัวอย่างแนวทางการเรียนรู้ของ AI เสมือนเด็กคนหนึ่ง ที่เคยไปจับเตาแล้วรู้สึกร้อน สมองรับรู้ความเจ็บปวด ก็จดจำไว้แล้วก็จะไม่ทำเช่นนั้นอีก

●วิทยาการ AI ก้าวมาได้ถึงระดับ Weak AI ก็ถือว่าเยี่ยมยอดแล้ว แต่สิ่งที่ผู้คิด ผู้พัฒนา วางเป้าหมายไว้นั้น ไกลกว่านี้มาก อนาคตของ AI ในวิสัยทัศน์ของผู้พัฒนามีอีก 2 ระดับขั้นนั่นคือ

ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial general intelligence หรือ AGI) ในระดับนี้ AI จะสามารถเข้าใจเหตุและผล สามารถวางแผน และรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้

ปัญญาประดิษฐ์ ที่ฉลาดเหนือมนุษย์ Artificial Super Intelligence (ASI) ในระดับนี้น่ากลัวแล้ว เหมือนที่เราเห็นในหนังไซไฟโลกอนาคต ที่ระบบ AI กลายเป็นภัยต่อมวลมนุษย์ ในระดับนี้มันสมองของ AI ฉลาดกว่า มันสมองของคนทั้งโลกรวมกัน แค่มาถึงจุด AGI นั้น ระดับมันสมองของ AI ก็สามารถคิดคำนวณได้เทียบเท่าความเร็วของสมองมนุษย์แล้ว แต่ถ้าไปถึง ASI แล้ว ระดับการทำงานของมันจะคิดได้เร็วเท่ากับมันสมองของประชากรโลกทั้ง 7,300 ล้านคนรวมกัน